ออกเดินจากบ้านสู่เมืองฟ้า
สู่เมืองเทวาเมืองบางกอก
เดินทางเดียวดายจากบ้านนอกมาเล่ามาเรียนมาศึกษา
เจอะคนทั้งแบบนี้แบบนั้น
เจอะทั้งแมงวันทั้งจิ้งจอก
เจอะทั้งคนดีคนกลับกลอก
คนหวังปอกลอกมีมากมาย
ตั้งใจร่ำเรียนทุกค่ำเช้า
ถึงหนักถึงเบาไม่ร้องบอก
อยู่ไปวัน ๆ เหมือนมีปลอก
ลากคอให้เดินตามทาง
ชี้ให้ฉันเดินไปทางไหน
จะเร่งรีบไปตามคุณบอก
หัวใจเฉื่อยชาแต่ช้ำชอก
แตกหักยับเยินป่นปี้
ชี้ให้ฉันเขียนฉันรีบเขียน
ชี้ให้ฉันเรียนให้ฉันสอบ
แข่งขันกันไปหลายรอบ
เหมือนเลือกเอาหมาพันธุ์ดี
ทำเพื่อหนทางที่วาดหวัง
รีดเค้นพลังพุ่งพวยออก
ก็ตามประสาคนจนตรอก
หวังงานทำเงินเลี้ยงครอบครัว
จวบจนฉันจบการศึกษา
รับใบปริญญาที่ฉันชอบ
สุขใจแค่ไหนไม่ต้องบอก
ยิ้มพลางเดินพลางสบายดี
รีบเดินย่ำต๊อกหางาน
ความสดชื่นบานที่เคยมี
เริ่มหดเริ่มหายลงทุกที
ไม่มีไม่มีไม่มีงาน
รับคน 15 คนทำงาน
เด็กฝากเด็กท่านเอาหนึ่งโหล
ที่เหลือหมื่นพันร้องไห้โฮ
ระบบทางแก้ไม่มี
หลายที่หลายแห่งคนทำงาน
เช้าชามเย็นชาม 2 ขั้นปี
แต่คนขยันทำงานดี
ไม่มีไม่มีไม่มองมา
ยังงี้เมื่อไหร่บ้านเมืองไทย
เจริญก้าวไปทัดเทียมกัน
นานาประเทศดังคำขวัญ
ที่เขียนเอาไว้สวยดี
อุตส่าห์ร่ำเรียนมาแทบตาย
แต่ผลสุดท้ายต้องตกงาน
หมดเงินหมดแรงอยู่ตั้งนาน
วิมานมาพังไร้ชิ้นดี
แม่จ๋าลูกกลับมาแนบเนาว์
กลับสู่บ้านเราด้วยช้ำชอก
ทุ่มเทกายใจให้บ้านนอก
หลังถูกจับขังหลายปี
แม่จ๋าลูกกลับมาแนบเนาว์
กลับสู่บ้านเราด้วยช้ำชอก
ทุ่มเทกายใจให้บ้านนอก
หลังถูกจับขังหลายปี